ท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน
ทุกคนมีความเข้าใจ มีความรู้สึกว่าตัวคุณเองท้องผูก ไม่ถ่ายอุจจาระ
ติดต่อกันหลายวัน ไม่มีอาการปวดถ่าย เลยต้องออกแรง เบ่งมากๆ
อุจจาระแข็ง ถ่ายไม่สุด ปวดแต่เบ่งไม่ออก
ในบางรายเชื่อว่าถ้าไม่อุจจาระ ทุกวันถือว่าตนเองท้องไม่ปูดและบางราย
ต้องถ่ายอุจจาระ วันละหลาย ครั้งทุกวัน ถ้าถ่ายอุจจาระเพียงครั้งเดียว
ก็ถือว่าท้องผูก
เนื่องจากอาการท้องผูก เป็นอาการที่แต่ละคน ใช้ความรู้สึกเป็นหลักใน
การตัดสินใจว่าเป็นอาการท้องผูก
ถ้าหากคิดว่าอาการนั้น เป็นอาการท้องผูกจริง ก็จะบอกว่าอาการนั้น
เป็นปกติ ท้องไม่ผูก แต่ในบางรายบอกว่าท้องผูกมากแล้ว จะเห็นได้ว่า
มีอาการแตกต่างในความเข้าใจ ของคำว่า ”ท้องผูก” ในแต่ละคน มี
ความหมาย แตกต่างกันมาก แต่พัชขอเปรียบเทียบจากลักษณะนิสัย
การถ่ายอุจจาระที่ปกติ ของอาการท้องผูก
ท้องผูก หมายความว่า ภาวะที่มีความถี่ ในการถ่ายอุจจาระน้อยกว่า
ปกติ อาจมีความถี่ในการถ่ายอุจจาระปกติ แต่ในการถ่ายอุจจาระแต่
ละครั้งจะถ่ายอุจจาระด้วยความยากลำบาก ถือว่าผู้มีปัญหาท้องผูก
ในคนปกติ จะถ่ายอุจจาระ วันละ 2-3 ครั้ง หรือ ถ่ายอุจจาระ 3 ครั้ง
ต่อสัปดาห์ คนที่ถ่ายอุจจาระ น้อยกว่า 3 ครั้ง ต่อ สัปดาห์ ถือว่ามี
อาการท้องผูกแน่นอน
ท้องผูก มักถ่ายอุจจาระ ลำบากใช้เวลา เบ่งนานกว่าปกติ มีอาการเจ็บ
ทวารหนักเวลาถ่าย คนที่มีอาการท้องผูก เกิดขึ้นนานติดต่อกันเกิน
3 เดือน ถือว่ามี”ท้องผูกเรื้อรัง”
ท้องผูกถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์
1. ต้องเบ่งมากกว่าปกติ
2. อุจจาระเป็นก้อนแข็ง
3. รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่สุด
4. มีความรู้สึกว่าถ่ายไม่ออก
เนื่องจากมีสิ่งอุดกั้นบริเวณทวารหนัก ถ้ามีอาการสองอาการขึ้นไป
บ่อย ๆ มากกว่า 25% ของการถ่ายอุจจาระ เวลาที่มีการถ่ายอุจจาระ
ผิดปกติมากกว่า 3 เดือน ไม่จำเป็นต้องเป็นติดต่อกันทุกวันในหนึ่งปี
จะถือว่ามีอาการท้องผูกแบบใกล้ๆจะถาวร
โรคลำไส้แปรปรวน คือ ภาวะลำไส้ทำงานผิดปกติ ทำให้ปวดท้อง
ท้อวผูก ท้องเสีย หรือ ท้อวผูกสลับท้องเสีย อาการท้องผูกที่ตรวจ
ไม่พบความผิดปกติ ของลำไส้ ไม่มีการอักเสบ ไม่มีแผล ไม่มีเนื้องอก
หรือก้อนเนื้อมะเร็ง
การตรวจพบ ความผิดปกติของลำไส้ จะส่งผลในการทำงานของลำไส้
ผิดปกติ ทำให้ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคเบาหวาน โรคลำไส้ แปรปรวน
โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง มักเป็นๆ หาย ๆ หรือ”อาจเป็นตลอดชีวิตเลย”
ท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน เป็นโรคที่สร้างความรำคาญและเกิด
ความทุกข์ทรมาน อย่างมาก ส่วนใหญ่เกิดความวิตกกังวลว่า ทำไมนะ
ดูแลไม่หายสักกะที โรคนี้ส่งผลถึง คุณภาพชีวิตประจำวัน ทำให้การ
ทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด
โรคท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน จะมีอาการปวดท้องเป็นๆ หายๆ
มักเป็นและไม่หายขาด อาการปวดท้องมักปวดที่ท้องน้อย ปวดเป็นพักๆ
อาการปวดอาจเคลื่อนที่ได้ อาการปวดท้องจะดีขึ้น หลังถ่ายอุจจาระ
อาการปวดท้องนั้นจะมีอาการท้องผูกควบคู่กับท้องเสีย อุจจาระจะ
เปลี่ยนไปเป็นก้อนแข็ง การถ่ายอุจจาระลำบากต้องเบ่งมาก การถ่าย
อุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ จะมีอาการเป็นๆ หายๆ มักจะ
ถ่ายเป็นเลือด มีไข้ ชีดลง มีอาการปวดเกร็งในท้องมากตลอดเวลา
โรคลำไส้แปรปรวนไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดของโรค
1. การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ ผลจากการหลั่งสารฮอร์โมนในผนัง
ลำไส้ผิดปกติ นำไปสู่ท้องเสีย และ ท้องผูก
2. ระบบประสาทที่ผนังลำไส้ต่อตัวกระตุ้นมากผิดปกติ หลังกินอาหาร
เข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว และ การเคลื่อนไหว ของลำไส้ มากขึ้นมี
อาการปวดท้อง ท้องผูก ท้องเสีย หรือ ท้องเสียสลับกับท้องผูก
3. เกิดจากความเครียด การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ มีส่วนทำให้
อาการดีขึ้นได้
4. มีความผิดปกติในการควบคุมการทำงาน ของระบบการรับความ
รู้สึก ระบบกล้ามเนื้อของลำไส้ และ สมอง เกิดจาดความผิดปกติของ
ฮอร์โมน ที่ควบคุมการทำงาน
5. เกิดจากความกังวลใจจากการเดินทางไกล ทำให้มีภาวะ การถ่าย
อุจจาระ ไม่ออกเกิดจาการนั่งนานๆ
โรคลำไส้แปรปรวนภาวะท้องอืด มีสาเหตุ ดังนี้
1. เกิดจากการได้รับเส้นใยอาหารไม่เพียงพอเป็นภาวะขาดน้ำ ขาดการ
ออกกำลังกาย ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายชอบละเลยการยั้บยั้งความ
รูู้สึกอยากถ่ายอุจจาระบ่อยๆ
2.โรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ ทำงานน้อยกว่าปกติภาวะโปรตัสเซียม
ในเลือดต่ำ ภาวะแคลเซียมสูงในเลือดและพิษจากสารตะกั่ว
3. โรคระบบประสาทส่วนกลาง ส่วนปลายโรคลำไส้แปรปรวน จนกลาย
เป็นโรคมะเร็งมีน้อยมาก แต่ถ้ามีอาการ บ่อยๆ เป็นนานๆ แรมปี โอกาส
กลายเป็นโรคมะเร็งก็เป็นได้ จากแรงกระตุ้นจากสารเคมี ที่เป็นส่วยผสม
ในอาหาร สำเร็จรูปที่กำลังนิยมรับประทานกัน
ควรต้องระมัดระวัง
หากเกิดในช่วงสูงอายุ มักเกิดการเปลี่ยนแปลงทางระบบการย่อยจาก
เดิมไป ติดเชื้อโรคใน ระบบทางเดิน อาหารง่าย จะมีมีอาการ ท้องเสีย
ท้องผูก หรือ ท้องผูกสลับ กับ ท้องเสีย ทำให้เสียน้ำจำนวนมาก อาจ
ทำให้ช๊อคได้ ในช่วงอายุ 40 – 50 ปี มีโอกาสเสี่ยง ต่อการ เกิดโรค
มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งลำไส้ใหญ่ สูง มาก ๆ มักเกิดร่วม กับโรคลำไส้
แปรปรวนเสมอค่ะ
พัชมีขอแนะนำ
เมื่อคุณเป็นโรคแปรปรวน แบบภาวะท้องผูก ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย
ควรรับประทาน อาหาร ที่มีกากเส้นใย ให้มาก ๆ จะช่วยลดอาการ
ปวดท้อง ท้องผูก และ ท้องเสียได้ดี
ควรเริ่มต้นกินอาหารที่มีกากเส้นใยอาหารจากข้าวกล้อง ผัก ผลไม้
ควรได้รับเส้นใยอย่างน้อย 20-30 กรัม ต่อ วัน กินกากเส้นใยอาหาร
มากจะช่วยลดอาการบีบตัวการบีบเกร็งของลำไส้ ลดความดันภายใน
ช่องท้อง ลำไส้ ด้วย ทำให้ อาการปวดท้องน้อยลดลง
เนื่องจากกากในอาหารจะช่วยดูดซับน้ำไว้ในตัวอุจจาระ ทำให้ปริมาณ
อุจจาระเพิ่มมากขึ้น ทำให้อุจจาระไม่แข็ง ในลำไส้มีปริมาณอุจจาระมาก
จะช่วยเร่ง ให้มีการขนส่ง อุจจาระผ่านลำไส้ เร็วขึ้น ส่งผลให้มีการขับ
ถ่ายอุจจาระ เพิ่มขึ้น และง่ายขึ้น อาหารมีกากเส้นใย จะทำให้มีอาการ
ท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ในช่วงแรก จึงควรค่อยๆ รับประทานที่ละ
น้อย ให้ลำไส้และร่างกายสามารถปรับตัวเองได้จะค่อยๆ ดีขึ้นเองหลัง
กินได้ 1-2 สัปดาห์
ดื่มน้ำมากๆ วันละ 2 ลิตร การออกกำลังกาย จะทำให้อาการท้องผูก
ดีขึ้น ต้องใช้เวลาให้เพียงพอ ไม่รีบเร่ง ในการถ่ายอุจจาระ รวมถึงการ
ฝึกให้เป็นนิสัยในการถ่ายอุจจาระ ให้เหมาะสม การถ่ายอุจจาระหลัง
อาหารเช้า-เย็น โดยไม่ต้องเบ่ง
สำหรับอาการปวดท้อง ควรกินอาหารทีละน้อย ไม่กินอิ่มจนเกินไป
หลีกเลี่ยงอาหารไขมัน อาหารรสจัด จะเป็นตัวกระตุ้นที่รุนแรงของ
การบีบตัวของลำไส้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอร์ กาแฟ ของ
ดอง น้ำอัดลม และ ยาบางชนิด ที่ทำให้ท้องผูกมากขึ้นความเครียด
ความวิตกกังวลก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ กระตุ้นให้อาการมาก ขึ้นควร
ผ่อนคลาย ความเครียด ทำจิตใจให้สบาย มีการพักผ่อนทั้งร่างกาย
ให้เพียงพอ ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิต ป้องกันไม่ให้เกิดอาการใหม่
เกิดขึ้นอีก
ถามว่าโรคลำไส้แปรปรวนมีโอกาสหายขาดหรือไม่
ปัจจุบันไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของ โรคลำไส้แปรปรวน จึงยังไม่มียา
เฉพาะของโรค แต่ถ้าตั้งใจดูแลอาการของโรคลำไส้แปรปรวน สามารถ
หายขาดได้
การไปพบแพทย์
มักจะดูแลตามอาการท้องผูกก็ให้ยาระบาย ท้องเสียก็ให้ยาแก้ท้องเสีย
มีอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อลำไส้ ก็ให้ยาลดอาการปวดท้อง การดูแล
จึงไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรจะเป็น จึงมีอาการเป็นๆหายๆและมักไม่หายขาด
เสียทีเดียว การควบคุมอาหาร ปรับสมดุลย การกินให้เหมาะสม กับ
ลำไส้ จะทำให้อาการท้องอืด ท้องเสีย และการปวดเกร็งกล้ามเนื้อช่อง
ท้องลำไส้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
การปรับสมดุลยลำไส้ของคนเรา ด้วยสารอาหารบำบัด
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการย่อยอาหาร ในรูปแบบเจลมีคุณ
สมบัติพิเศษการดูดซึมเร็ว มีสารอาหารวิตามิน จากธรรมชาติ
ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็ว ออกฤทธิ์เร็ว
ในปี ค.ศ 2005 นักวิทยาศาสตร์ในแคนาดา ค้นพบว่า
Resveratrol ช่วยลดกรดไขมัน ลดการอักเสบ เพิ่มไบโอติก
ในกระเพาะลำไส้ ช่วยต้านทานจากการอักเสบเรื้อรัง เป็นสาเหตุ
ทำให้เกิดโรค และ ระบบถูกทำลายลดการอักเสบของเยื่อบุผนัง
ลำไส้ลดการเกร็งกล้ามเนื้อช่องท้องและลำไส้
สารอาหารในรูปเจล ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก
ลำไส้ใหญ่ ออกฤทธิ์เร็ว สามารถดูดซึมเข้าสู่ ร่างกายได้ดี โดยซึม
ผ่านไปตามเส้นเลือด และระบบการย่อยอาหาร
เมื่อได้รับเอเจล เอ็กซ์โซ่ และ กรีน อย่างสม่ำเสมอ สารอาหาร
จะเข้าไปปรับสมดุลยภายในกระเพาะอาหาร ในลำไส้ จะทำให้ร่างกาย
เปิดสวิซ รับเอาสารอาหาร เสมือนยีนส์ ของคนเราได้ต่อต้านการ
อักเสบภายในกระเพาะอาหาร ในลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ เพิ่มเป็นเกาะ
ปัองกัน และ ทำให้จุลินทรีย์เจ้าถิ่น แข็งแรง ช่วยปกป้องทำลาย
ฟรีเรดิเคิล ควบคุมปกป้องร่างกาย ช่วยในการย่อยอาหาร ส่งเสริม
การเผาผลาญ ในการขับถ่าย ขจัดสารพิษในร่างกาย
นักวิทยาศาสตร์ พบว่า การสะสมพิษ ในอุจจาระตกค้าง ตะกรันที่
ลำไส้ใหญ่ อาการท้องผูก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ
เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้ง่าย เนื่องจากลำไส้ เป็นอวัยวะที่ร่างกายไม่
สามารถมองเห็นได้ จึงถูกละเลยในการดูแล
Detox หมายถึง กระบวนการในการล้างสารพิษ ออกจากร่างกาย
ด้วยวิธีการต่างๆซึ่งในบางกลุ่มที่ดูแลสุขภาพ อาจจะทำการทำความ
สะอาดลำไส้ใหญ่ เป็นวิธีการที่มีความยุ่งยาก
– ช่วยระบบย่อยอาหาร และการขับถ่าย
– ล้างสารพิษ และทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร
– สนับสนุนให้แบคทีเรียที่มีอยู่ในระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น
Ageo grn ช่วยย่อยอาหาร ล้างพิษ และ
ขจัดสารล้างพิษถูกจัดในกลุ่ม Agel thrive เน้นระบบย่อยอาหาร
ไฟโตนิวเตรียนท์ และ คลีนเซอร์ทำให้ระบบการย่อยอาหารและการ
ดูดซึมดียิ่งขึ้น ล้างสารพิษ ช่วยระบบย่อยอาหารให้พลังานจากสาร
อาหาร ปราศจาก สารกระตุ้น ช่วยระบบการเผาปลาญ ช่วยย่อย
อาหาร และ ระบบขับถ่าย บรรเทาอาการปวดของเอ็นและกล้ามเนื้อ
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com