ใครเสี่ยงถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ
ในระบบทางเดินอาหาร ส่วนที่อยู่ในท้อง มีกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และ ลำไส้ใหญ่ ท้องน้อย
ด้านขวา ไปด้านบน กลับลงมาซ้าย มาออกที่ทวารหนัก ลักษณะท่อเป็นกระเปาะ ทำหน้าที่
เก็บกักอุจจาระ ให้เป็นก้อน ก่อนจะขับถ่ายออกมาทางทวารหนัก
บางรายมีความผิดปกติของผนังลำไส้ใหญ่ ที่เรียบราบ เกิดการถุงผนังโป่งพองและอักเสบ เป็น
ถุงกระเปาะยื่นออกไปภายนอกลำไส้ แต่ถ้าเกิดการอุดตัน มีบาดแผล เกิดการอักเสบขึ้น บริเวณ
ถุงผนังลำไส้จะเกิดโป่งพองและอักเสบขึ้นมา จะมีอาการเจ็บปวด และเกิดการอักเสบรุนแรง อาจ
เกิดการทะลุ มีเลือดออก อาการรุนแรงมักเกิดขึ้นทันทีทันได.
ปัจจัยเสี่ยงภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ
เมื่อเป็นภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ เกิดขึ้น มักไม่ทราบสาเหตุการเกิด ภาวะถุงผนังลำไส้
โป่งพองและอักเสบ เชื่อว่า เกิดจากการที่ผนังลำไส้ อ่อนแอ ผิดปกติ มีแรงดันภายในลำไส้บางอย่าง
เป็นเวลานาน ๆ
1. ภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ พบในผู้สูงอายุมากกว่า
เพราะลำไส้มีระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงยาวนานมากกว่าวัยหนุ่มสาว
2. ครอบครัวที่มีประวัติการ เป็นถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ มักจะพบได้บ่อยๆ เพราะเป็น
โรคทางเนื้อเยื่อทำให้ผนังลำไส้อ่อนแอลงกว่าปกติ
3. ท้องผูกบ่อยๆ ถ้าหากเกิดการท้องผูกบ่อยๆ นานๆ ทำให้เกิดมีแรงดันในลำไส้ จากอุจจาระ
การเบ่งถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีการดันผนังส่วนนี้อ่อนแอลง ทำให้เกิดการโป่งพองชองลๆไส้
ออกมามากขึ้น และ เมื่อมีการโป่งพองมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้องการขับถ่าย จึงทำให้เนื้อเยื่อ
ส่วนปลายทวารหนักถูกขูดเป็นแผล ริ้ว ๆ นานเข้าเกิดเป็นริดสีดวงทวารหนักดูแล ไม่หายขาด
สักที (หากเนื้อเยื่อส่วนนี้เกิดการแบ่งตัวผิดปกติขี้นไม่สามารถควบคุมได้กลายเป็นเนื้องอก
หรือ ก้อนมะเร็งในที่สุด)
4. การกินอาหารที่มีเส้น(กาก)ใยน้อย ทำให้เกิดอาการท้องผูก เกิดถุงผนังลำไส้โป่งพอง และ
อักเสบได้ การเกิดภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ ส่วนมากไม่มีอาการอะไร แต่ถ้าหากมี
อาการก็มักเป็นอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องตึง ๆ มีลมในท้องมากๆ แยกไม่ออกว่าเป็นโรค
ลำไส้แปรปรวน หรือ กรดไหลย้อนดี ในบางรายจะมีเลือดออก ปะปนออกมากับอุจจาระ
ภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ เกิดจากลำไส้อักเสบมีเลือดออก เกิดการอุดตันของถุง
ผนังลำไส้
ถ้าถุงผนังลำไส้โป่งพองเกิดการอักเสบ จะมีอาการปวดท้อง ที่ตำแหน่งถุงผนังลำไส้ จะมีอาการ
ปวดมาก เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ถ้าถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบมากขึ้น
จะมีอาการไข้ตัวร้อน หนาวสั่น ในรายที่มีการอักเสบรุนแรง “จนทะลุจะเกิดอาการปวดท้องมาก
และ หน้าท้องแข็งเกร็ง” ร่วมด้วย
(มักพบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูงขึ้น บ่งบอกว่า มีการอักเสบ เกิดขึ้นในร่างกาย แต่แยกไม่สามารถ
แยกจากการอักเสบอื่น ๆ ในช่องท้องได้)
A. เอกซเรย์คอมเตอร์ช่องท้อง หาตำแหน่งการอักเสบ ภายใน ภายนอก ของลำไส้ แต่ถ้ามีภาวะ
ถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ “จะพบการอักเสบเกิดขึ้นที่ชั้นไขมัน” ที่อยู่ล้อมรอบลำไส้ใหญ่
อาการแทรกซ้อน คือ เกิดการทะลุ เกิด ฝี หนอง ในช่องท้อง การอักเสบในช่องท้อง มีอาการ
คล้ายกัน ไส้ติ่งอักเสบ หรือ การอักเสบในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ การอักเสบระบบทางเดินปัสสาวะ
B. การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ทางทวารหนัก เป็นการสอดสายกล้องเข้าไปในลำไส้ใหญ่
การตรวจลำไส้ใหญ่ ผิดปกติ ถ้าหากสงสัยว่ามีภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ
ในการสวนกล้องส่อง ลำไส้ ต้องใส่ลมเข้าไปในลำไส้ มีความเสี่ยงสูง
อาจเกิดการแตกรั่วของถุงโป่งพองลำไส้ที่มีการ อักเสบอยู่แล้ว
เมื่อสงสัยว่าเกิดภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบสังเกตุตัวเราตามอาการดีงนี้
=> ภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพอง เกิดการอักเสบ มักมีอาการปวดเฉพาะที่ มีไข้ ดูแล ตามอาการ
ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ กินอาหารอ่อน ๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่ถ้ามีอาการอักเสบ
มีความเสี่ยงสูง ในผู้สูงอายุ เพราะมีภาวะภูมิคุ้มกันตํ่ากว่าคนปกติ ในคนเป็นเบาหวาน ในคน
เป็น โรคตับแข็ง อาจต้องให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด
=> มีอาการแทรกซ้อนของภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ จะมีอาการปวดท้องมาก
หน้าท้องแข็งเกร็ง มีไข้สูง ตรวจหน้าท้อง พบการอักเสบในช่องท้อง เกิดได้จากการภาวะถุง
ผนังลำไส้โป่งพองและอักเสบ จะมีอาการแทรกซ้อน จากการแตก เข้าในช่องท้อง การแตก
ฝี หนอง ในช่องท้อง แตกทะลุเข้า กระเพาะปัสสาวะ เกิดภาวะลำไส้อุดตัน
การป้องกันภาวะถุงผนังลำไส้โป่งพอง จะเกิดในผู้สูงอายุ ทำให้เกิดการอักเสบ มีความเสี่ยง
มากกว่าวัยรุ่น วัยทำงาน การจัดการที่ดีที่สุด คือการป้องกันอย่าให้มีภาวะนี้เกิดขึ้นแต่แรก
– ดื่มนํ้ามาก ๆ เพราะช่วยให้อุจจาระไม่แข็งขับถ่ายได้ง่าย
– กินอาหารที่มีเส้นใยเป็นประจำ เพื่อช่วยในการขับถ่าย
– ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายจะช่วยรักษาสมดุลของการเคลื่อนตัวของลำไส้
ช่วยให้มีการผายลมและการขับถ่ายที่ปกติ ลดความดันในลำไส้
– ไม่สูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการอักเสบผิดไป โดยพบว่าผู้ที่มี
อาการถุงผนังลำไส้โป่งพองอักเสบและไส้ติ่งอักเสบ จะเกิดการทะลุของลำไส้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
– ควบคุมนํ้าหนัก การมีนํ้าหนักตัวมากเกินทำให้เกิดโรคนี้ได้ง่าย และหากต้องผ่าตัดก็จะมี
ความเสี่ยงมากขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีลูกค้าหลายๆคนได้เข้ามาปรึกษาอาการ กรดไหลย้อน โรคกระเาะอาหาร
และการปวดแต่ถ่ายอุจจาระไม่ออก ท้องผูก แน่นอึดอัด เมื่อพูดคุยถึงปัญหา เกิดจากบริโภค
อาหาร มีความชื่นชอบ อาหารประเภท ปิ้ง ย่าง ลาบ และรับประทานอาหารกากใยน้อย การดื่ม
น้ำน้อย ชอบดื่มกาแฟเย็น ไม่รับประทานอาหารเช้า ไม่ทานผัก ทานอาหารจานด่วน
*อาหารขยะที่วัยรุ่นชอบทาน พวกแฮมเบอร์เกอร์ แฟรนฟราย ไก่ทอด ผักทอด เป็นอาหารกากใยน้อยและมีสารปรุงแต่ง ที่เป็นสารก่อมะเร็ง เมื่อรับประทานเป็นประจำทำให้สะสมในกระเพาะ ลำไส้
ทำให้ขับถ่ายอุจจาระออกยาก เหนี่ยว เมื่สะสมนานทำให้เกิดแก๊ส ขึ้นเพราะอาหารเหล่านั้นเน่าเสีย
และค้างอยู่นาน
อาการปวดท้องข้างซ้ายบนภายในช่องท้องบริเวณด้านซ้ายบนประกอบด้วยอวัยวะสำคัญๆ
ไม่ว่าจะเป็น กระเพาะอาหารตับ ตับอ่อน ม้าม ลำไส้ และไตซ้าย ที่สำคัญยังอยู่ใกล้กับหัวใจ
อีกด้วย ฉะนั้น คนที่มีอาการปวดท้องข้างซ้ายบน หรือปวดท้องข้างซ้านบริเวณใต้ซี่โครง อาจ
เกิดได้จากสาเหตุเหล่านี้
โรคหัวใจ
อาจจะดูแปลกไปสักหน่อย เพราะว่า การเป็นโรคหัวใจ อาจไม่ได้เกี่ยวข้อง กับอาการปวดท้อง
ที่เกิดขึ้น แต่การปวดท้องข้างซ้ายบน ก็นับเป็นอีกหนึ่งที่สื่อถึงการเริ่มต้น การเป็นโรคหัวใจได้
การปวดท้อง เป็นขั้นแรก ที่นำไปสู่การเป็น “ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน” ที่เกิด
ตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดรอบสะดือ ปวดที่บริเวณลิ้นปี่ หรือ ปวดที่บริเวณใต้ชายโครง
และ ท้องน้อย อาการปวดที่เป็นขั้นต้น เป็นการปวดแบบเสียด ๆ ปวดตื้อ ๆ ค่อย ๆ เพิ่ม
ความรุนแรง ของอาการปวด จนทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ นอนไม่หลับ อาจมี
อาการอาเจียน บ่อยๆ ครั้ง ถ้ามีทั้งสองอาการ นี้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน 3 – 4 ครั้ง.
**พัชขอแนะนำให้รีบไปพบแพทย์**
ท้องผูก
บริเวณช่องท้องส่วนบนเป็นที่อยู่ของ ลำไส้ใหญ่ ผู้มีอาการท้องผูก จะรู้สึกปวดท้องข้างซ้ายบน
อาการท้องผูก “เกิดจากการที่อุจจาระตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่” ไม่เคลื่อนตัวไปได้ตามปกติ ผู้ที่
มีอาการท้องผูกจะมีอาการอึดอัด ส่งผลให้เกิดกลิ่นปาก และ กลิ่นตัว
แก๊สในกระเพาะอาหาร
ในเครื่องดื่ม ในอาหารบางชนิด เมื่อรับประทานเข้าไป อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ในบาง
กรณี จะส่งผลให้เกิด อาการปวดท้องข้างซ้ายบน อาการจุกเสียด แน่นท้อง จนอึดอัด การดูแล
อาจทำได้ด้วยการรับประทานยาลดกรด หรือ ยาขับลม
(ขอแนะนำ แก๊สในกระเพาะอาหาร มิใช่ โรคกระเพาะอาหาร แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามอาการที่เป็น)
กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ
การรับประทานอาหารที่ไม่สดสะอาด อาหารที่มีสารปนเปื้อน เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา
ก็เป็นได้
สาเหตุ การเกิด โรคกระเพาะอาหาร และ ลำไส้เล็ก โรคโรคกระเพาะอาหาร และ ลำไส้เล็ก
มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มีอุจจาระร่วง แบบเฉียบพลัน มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
เบื่ออาหาร ไปจนถึงภาวะขาดน้ำ โรคกระเพาะอาหาร และ ลำไส้เล็ก ดูแลอาการอักเสบ
ใช้ยาปฏิชีวนะ ดูแลตามอาการที่เป็น (ขอแนะนำ ต้องใช้ยาช่วยย่อย ยาลดกรดใน
กระเพาะอาหาร)
ลำไส้แปรปรวน (มีอาการปวดท้องข้างซ้ายบน)
เกิดมาจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ เป็นอาการเรื้อรัง ของ โรคลำไส้แปรปรวน หรือ
โรคลำไส้แปรปรวน “เกิดจากการติดเชื้อภายในลำไส้” นอกมีอาการปวดท้อง มีอาการท้อง
เสียเรื้อรัง มีอาการท้องผูก เป็นประจำ พัชบอกได้เลยว่าโรคลำไส้แปรปรวน
(เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมให้อยู่ภาวะที่เป็นปกติได้)
อุจจาระปนเลือด คือ
อาการที่มีเลือดออกจากทวารหนัก เมื่อมีการขับถ่ายอุจจาระ มีอาการปวดท้อง เจ็บบริเวณ
รูทวาร รวมด้วย การถ่ายเป็นเลือด ไม่ควรมองข้าม ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นอาการเตือนว่า
ลำไส้ ทวารหนัก กำลังมีโรคแทรกซ้อน และ มีความผิดปกติ ของอวัยวะภายในร่างกายคุณ
การมีเลือดออกมากับการถ่ายอุจจาระ บอกถึงสาเหตุความผิดปกติได้เป็นอย่างดี คือ
1. ถ่ายปนเลือดสีแดงสด ที่ถูกขับออกมากับอุจจาระมีความเกี่ยวข้องกับลำไส้ใหญ่และ
ทวารหนัก
? เลือดออกในลำไส้ใหญ่ มักจะมีสีแดงสดจากเลือดใหม่ หรือมีสีแดงคล้ำ เป็น ลิ่มเลือด
ปนอยู่ด้วยจากเลือดที่ตกค้าง อยู่ภายในถ้ามี เลือดออกจำนวนมาก มักจะมีอาการปวดท้อง
? ท้องผูก เลือดสีแดงสด มาจากอาการท้องผูก มีก้อนอุจจาระ มีขนาดใหญ่ แข็ง ทำให้
รูทวารได้รับการบาดเจ็บ บริเวณรูทวาร มักมีอาการแสบการดูแล คือ ดื่มน้ำให้มาก รับ
ประทานอาหารที่มีกากใยสูง รับประทรนผักและผลไม้ชนิดต่างๆ จำพวกฟักทอง มะละกอ
และ มะขาม
? โรคริดสีดวงทวารหนัก มาจากอาการท้องผูก คือ การมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็น
จำนวนมาก ไหลออกมา เป็นหยดๆ เป็นสายเลือด ยังมีอาการเจ็บ แสบมากบริเวณทวารหนัก
2. ถ่ายปนเลือดสีแดงคล้ำการถ่ายอุจจาระปนเลือดสีแดงคล้ำ สีดำ บอกถึงความผิดปกติ
เกี่ยวกับ กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และ ลำไส้ใหญ่ ดังนี้
? เลือดออกในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก เกิดจากการรับประทานอาการ มีรสเผ็ดจัด
การเป็นฝี ในกระเพาะอาหาร ลักษณะของอุจจาระ ค่อนข้างเหลวมีสีคล้ำ มีอาการอาเจียน
หลังการขับถ่าย (ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด)
? เลือดออกในลำไส้ใหญมักจะมีสีแดงสดจากเลือดใหม่ หรือมีสีแดงคล้ำ เป็น ลิ่มเลือดปน
อยู่ด้วยจากเลือดที่ตกค้าง อยู่ภายในถ้ามี เลือดออกจำนวนมาก มักจะมีอาการปวดท้อง
? สาเหตุอื่นๆ ที่ไม่เป็นอันตราย คือ การรับประทานยาบำรุงเลือด การรับประทานเลือด
สัตว์ การกลืนเลือดกำเดาเลือดที่ออกในช่องปาก
*** ขอแนะนำให้หยุดพฤติกรรม เหล่านี้สักระยะเวลา
หนึ่ง สังเกตดูอาการ ว่ายังมีอาการถ่ายปนเลือด อยู่หรือไม่ ถ้าหากยังคงมีเลือดออก แสดงว่า
มาจาก อย่างอื่น ควรพบแพทย์ ทันที
3. ถ่ายปนลิ่มเลือด หรือ มูกเลือด ที่ถูกขับออกมากับอุจจาระ เกิดจากการ มีเลือดออกมา
ระยะเวลาพอสมควร มักมีสาเหตุ มาจากปัญหาสุขภาพดังนี้
? โรคมะเร็งลำไส้ แผลจากการเป็นมะเร็ง ทำให้ มีเลือดออกในลำไส้ เป็นเวลานาน เลือดมี
ลักษณะเป็นลิ่มเลือดสีเข้ม พบมากในผู้ใหญ่วัยกลาง คนและ ผู้สูงอายุ
? การติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ การติดเชื้อนี้คือโรคบิด มาจากการได้รับเชื้อแบคทีเรีย มักมี
อาการปวดท้อง อย่างรุนแรง ถ่ายเหลว ปนลิ่มเลือดสีเข้ม มีไข้ อ่อนเพลีย
การติดเชื้อแบคทีเรีย อุจจาระ ไม่มีกลิ่นเหม็น ถ้าหากเกิดจากพยาธิ(ชาโมเนร่า,อีโคไล)
จะกลิ่นของ อุจจาระ จะเหม็นมาก คล้ายกลิ่นเหม็นเน่า
การดูแล การติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ รับประทานยาปฏิชีวนะ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
แต่ยังไม่หาย ภายใน 5-7 วัน ควรไปพบแพทย์
พัชขอนำเอาบทความบางส่วนของคุณหมอได้พูดถึง ความแตกต่างของริดสีดวงทวารกับ
มะเร็งลำไส้ใหญ่เพราะจะเป็นประโดยชน์อย่างยิ่งกับท่านผู้อ่าน
ปัจจุบันนี้ เกือบๆ 100% ของคนที่มีอาการริดสีดวงมีเลือดออกทางทวารหนัก ถ่ายเป็นเลือด
และ “มักคิดว่าตนเองเป็นริดสีดวงทวาร” แต่คุณรู้ไหมว่ามีโรคที่ร้ายแรงแอบ แฝงอยู่ในอาการ
ถ่ายเป็นเลือดของคุณ นั้น คือ “โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก” หลายต่อหลายคนเข้าใจ
ผิดว่าการถ่ายเป็นเลือด ต้องเป็นโรคริดสีดวงทวาร นั้นอาจจะ”รุนแรง ถึงขั้นกลายเป็นมะเร็ง”
ได้ แต่ความจริงแล้วคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หากจะมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคริดสีดวง มากกว่า
คนปกติ อาการถ่ายเป็นเลือด จึงเป็น อันตรายร้ายแรงมากกว่าที่เราคิดนะ
นพ.สุรพันธ์ฯ อธิบายข้อแตกต่าง ระหว่าง มะเร็งลำไส้ใหญ่ กับ โรคริดสีดวงทวารหนักไว้ว่า
ริดสีดวงทวาร เกิดจากหลอดเลือดดำ ในลำไส้ใหญ่โป่งพอง มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจาก ความ
ผิดปกติของติ่งเนื้อตรงเยื่อบุผิวหนังของลำไส้ใหญ่ เกิดจากภาวะเซลล์ ในร่างกายเสื่อม มี
สารพิษตกค้าง ในอาหาร ติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่เกิดขึ้น
– ถ่ายอุจจาระมีเลือดปนออกมาทางทวารหนัก
– อุจจาระมีขนาดก้อนเล็กลง มีปริมาณน้อย
– ปวดถ่ายบ่อยเหมือนถ่ายไม่สุด เพราะมีก้อนเนื้อมะเร็งกีด ขวางอยู่
– มีอาการท้องผูกปวดท้อง
(แต่ถ้าสังเกตที่สีของเลือดที่ถ่ายออกมาได้ว่า ถ้าถ่ายเป็นมูกเลือดสีคล้ำ ๆ ควรรีบมา
พบแพทย์ ทันที)
อาการริดสีดางทวารแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ…
1. มีอาการเลือดออก หัวริดสีดวงอยู่ข้างใน
2. ถ่ายอุจจาระแล้วมีก้อนริดสีดวงทวาร โผล่ออกมาเวลาเบ่ง แต่หดกลับเข้าไปได้เอง
3. ถ่ายอุจจาระแล้วมีก้อนริดสีดวงทวาร โผล่ออกมา และ ไม่หดกลับเข้าไปได้เอง
ต้องใช้นิ้ว มือดันกลับจึงเข้า
4. ริดสีดวงทวาร โผล่ออกมาภายนอกไม่สามารถดันกลับไปได้
(ขอแนะนำให้เปลี่ยนอุปนิสัยการกิน และ การขับถ่าย หากมี พฤติกรรมเดิมๆ จะทำให้
ริดสีดวงทวาร กลับมาเป็นได้อีก)
ข้อนี้สำคัญมาก
การมีก้อนเนื้อ กีดขวางทางเดินอุจจาระ ทำให้อุจจาระอยู่ในลำไส้นาน ๆ จะถูกดูดซึมน้ำ
ไปใช้จนอุจจาระแข็ง จะทำให้การขับถ่ายอุจจาระลำบาก ต้องออกแรงเบ่งมากขึ้น เส้นเลือดดำ
โป่งพองและอักเสบ ก่อให้เกิดภาวะเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก ทำให้ถ่ายเป็นเลือด อย่า อย่า
อย่านิ่งนอนใจไปนะ (ควรรีบไปพบแพทย์) ผู้มีปัจจัยเสี่ยงริดสีดวงทวาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
มักอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะว่าท่านมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย
ทานอาหารที่มีไขมันในปริมาณสูง แน่นอนมีโอกาศเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงมาก
ฮ่า ฮ่า ขอเตือนนะ ถ้าไม่อยากเสี่ยงเป็นริดสีดวงหนัก และ มะเร็งลำไส้ใหญ่
ขอแนะนำ เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ดังนี้นะ
– ควรฝึกอุปนิสัยการถ่ายให้เป็นเวลา
– ไม่นั่งนานหรือเบ่งอยู่นานๆ
– อย่าพยายามอย่าให้ท้องผูก
– รับประทานอาหารประเภทผักผลไม้
– ดื่ม น้ำเปล่าให้มากๆ
– ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
(จะช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เมื่อมีอาการขับถ่ายเป็นเลือดควรรีบพบแพทย์ )
ริดสีดวงทวารหนัก ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ถ้าเป็นริดสีดวง อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะแผลที่
เกิดขึ้นจะมีอาการติดเชื้อ มีเลือดออกมามากอาจ จะเป็นโรคซีดเลือดจาง ถ้าหากไป
ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่เนิ่นๆ จะได้รักษาให้หายขาดไม่ต้องถึงขั้นเสียชีวิต
ตามสถิติ 1 ใน 3 ของผู้ที่ถ่ายเป็นเลือด มักเสียชีวิตด้วย”โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่” ตรวจ
พบเร็ว ทำการดูแล ตั้งแต่ต้นจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิต ขอบอกว่าใครที่มีปัจจัยเสี่ยง
หากมีพฤติกรรมถ่ายอุดจจาระปนเลือดออกมา ควรรีบไปพบแพทย์ก่อนจะสายเกินไป
หากท่านมีอาการข้างต้น และ สงสัยว่าตัวท่านเองมีอาการข้างต้น อาการเหล่านี้สามารถ
ป้องกันได้ด้วย UMI MIN นวัติกรรมใหม่ ของสารอาหารสุขภาพ เป็นสารอาหารจาก
ธรรมชาต สามารถดูดซึมง่าย สารอาหารซึมผ่านเข้าสู่ร่างกายรวดเร็ว รสชาติดี
รับประทานง่าย
ผลลัพท์จากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จริง
แน่นอนคะทุกๆคนที่มีพฤติกรรมทั้งหลายที่กล่าวข้างต้นนั้นพัชขอยืนยันด้วยประสบการณ์
ของตนเอง มาแนะนำ เนื่องจากเป็นนักวิจัย การทำงานค่อนข้างมากเวลารับประทานอาหารน้อย
มาก ด้วยมีเวลาน้อย จึงรับประทานอาหารง่ายๆ กินเร็ว ใช้เวลาใน การรับประทานอาหารเร็ว
เคี้ยวไม่ละเอียด แล้วกลืน กระเพาะทำงานหนัก เป็นกรดไหลย้อน ท้องอืด อุจจาระแข็ง เป็น
ริดสีดวงทวารหนัก เวลาถ่ายเลือไหลออกมา เนื่องจากทวารเป็นแผล ดูแลโดยการผ่ตัดริดสีดวง
มีวันหมอบอกว่า ถ้าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่พ้นมะเร็งลำไส้ใหญ่แน่นอน แน่นอน อาการเหล่านี้ที่เล่า
มาข้างต้นสามารถป้องกันได้ด้วย EXO GRN นวัติกรรมใหม่ ของสารอาหารสุขภาพ เป็นสาร
อาหารจาก ธรรมชาต สามารถดูดซึมง่าย สารอาหารซึมผ่านเข้าสู่ร่างกายรวดเร็ว รสชาติดี
รับประทานง่าย
เมื่อเรามีทางเลือกที่ดี และเห็นผลแน่นอน เราจะช้าไปใย หันดูแลระบบขับถ่ายของเราให้ดีก่อน
โดยไม่ยุ่งยากแค่ดูดกลืน ท่านแบบง่ายไม่มีผล กับตับ ไต แต่ที่สำคัญ ช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับ
เป็นเวลาได้ง่าย ไม่เหนื่อยและเจ็บปวดอีกต่อไป
ปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
www.gelcremo.com